
วันที่ 15 มิถุนายน 2560
การเคลื่อนไหวของราคาน้ำตาล
ตลาดน้ำตาลทรายดิบนิวยอร์คในวันนี้เปิดตลาดด้วยราคาที่มีทั้งไม่เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น และลดลงจากวันก่อนในช่วง0.01-0.12 เซนต์ และปิดตลาดปรับตัวลดลงต่อ อันเป็นผลจากแรงขายของกลุ่มกองทุนขณะที่คาดว่าผลผลิตน้ำตาลในบราซิลจะเพิ่มขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ค NYMEX สัญญาส่งมอบเดือนกรกฎาคม 2560 ร่วมลง 27 เซนต์ หรือ 0.60% มาปิดตลาดที่ 44.46 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 44.22-44.81 เหรียญสหรัฐฯ โดยจุดต่ำสุดของวันถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม ราคาน้ำตาลตามสัญญาเดือนตุลาคม 2560 ปิดตลาดลดลง 0.17 เซนต์ หรือ 1.23% ที่ระดับ 13.68 เซนต์
หลังจากเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 13.65-16.85 เซนต์ สำหรับเดือนอื่นๆ ปิดตลาดมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงในช่วง 0.01-0.13 เซนต์ ปริมาณการซื้อขายมีจำนวน 170,425 ล็อต น้ำตาลคงเหลือในตลาด (open Interest) ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2560 ของน้ำตาลตามสัญญาเดือนกรกฎาคม 2560 ลดลง 25,653 ล็อต เหลือ 186,822 ล็อต และของน้ำตาลทั้งตลาดลดลง 238 ล็อต เหลือ 854,105 ล็อต ส่วนราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดลอนดอนปิดตลาดลดลงเช่นกัน โดยราคาน้ำตาลทรายขาวตามสัญญาเดือนสิงหาคม 2560 ปิดตลาดลดลง 2.30 เหรียญสหรัฐฯหรือ 0.57% ที่ระดับ 399.30 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน หลังจากเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 397.30-402.50 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน และราคาน้ำตาลตามสัญญาเดือนตุลาคม 2560 ปิดตลาดลดลง 3.60 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.92% ที่ระดับ 286.60 เหรียญสหรัฐฯ หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง285.70-289.90 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
ข่าวที่สำคัญ
วันที่15 มิถุนายน 2560 แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมน้ำตาลของปากีสถานเปิดเผยว่า หลังจากผลผลิตน้ำตาลของปากีสถานในฤดูการผลิตปี 2559/2560 มีมากเป็นประวัติการณ์ถึง 7.1 ล้านตัน (มูลค่าน้ำตาลทรายขาว) ทำให้ปากีสถานเปิดเผยว่า หลังจากผลผลิตน้ำตาลของปากีสถานในฤดูการผลิตปี 2559/2560 มีมากเป็นประวัติการณ์ถึง 7.1 ล้านตัน (มูลค่าน้ำตาลทรายขาว) ทำให้ปากีสถานต้องเผชิญกับสภาวะน้ำตาลเกินดุล 1.8 ล้านตัน ซึ่งตัวเลขนี้สามารถคำนวณได้เมื่อพิจารณาจากสต็อคน้ำตาลจำนวน 0.3 ล้านตัน และการบริโภคภายในประเทศจำนวน 5 ล้านตัน ปริมาณการผลิตที่มากเกินส่งผลให้ราคาน้ำตาลในประเทศลดลงเหลือ 49 รูปีปากีสถาน ( 1 เหรียญสหรัฐฯ = 103.90 รูปีปากีสถาน)ต่อกิโลกรัม ขณะที่ทางโรงงานน้ำตาลคาดว่าจะได้รับผลเสียหายมาก และในขณะเดียวกันทางอุตสาหกรรมน้ำตาลกำลังของรับเงินอุดหนุนการส่งออกอย่างน้อย 15รูปีปากีสถานต่อกิโลกรัม โดยหากไม่มีการตอบรับข้อเรียกร้องดังกล่าว ทางโรงงานน้ำตาลก็จะสามารถเริ่มเปิดหีบได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 จากเดิมเดือนพฤศจิกายน 2560 ในขณะเดียวกันพวกเขาต้องการให้ราคาอ้อยลดลงเหลือ 120 รูปีปากีสถานต่อ 40 กิโลกรัม จากเดิน 180 รูปีปากีสถาน
วันที่ 15 มิถุนายน 2560 Datagro รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกเฉลี่ยในพื้นที่ปลูกอ้อยในเขตภาคกลาง/ใต้ของบราซิลในเดือนพฤษภาคมมีจำนวน 121.4 มม. หรือมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 94.9% โดยในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคมปริมาณฝนตกมากขึ้น ทำให้โรงงานหยุดหีบอ้อย 4.7 วัน และตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมโรงงานหยุดหีบอ้อย 12.5 วัน เทียบกับ 5.4วันในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วทั้งนี้จำนวนวันที่หายไปในกระบวนการหีบอ้อยทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเวลาที่จะต้องเก็บเกี่ยวอ้อยทั้งหมดในไร่ในปีนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลา 1 ใน 3 วันสุดท้ายของฤดูการผลิตที่อ้อยมีคุณภาพที่ดี