วันที่ 11 มกราคม 2559 The Sugar Regulatory Administration (SRA) รายงานการผลิตน้ำ ตาลของฟิลิปปินส์ในฤดูการผลิตปี2558/2559 เพียงวัน ที่ 13 ธันวาคม 2558 ว่ามีเพียง 512,000 ตัน (มูลค่าน้ำตาลทรายดิบ) ลดลงจากปีก่อน 32% ขณะที่การผลิตกากน้ำตาลในช่วงเวลาเดียวกันลดลง 22% มาอยู่ที่ 276,000 ตัน ทั้งนี้สภาพอากาศที่แห้งแล้งเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะ El Niño และพายุไต้ฝุ่น Yolanda ส่งผลให้ผลผลิตอ้อยลดลง นอกจากนี้ SRA ยังได้คาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลในปีนี้ว่าจะลดลงเหลือ 2.27 ล้านตัน เทียบกับ 2.316ล้านตัน ในปีก่อน แต่อย่า งไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวนี้อาจต้องมีการปรับลดลงอีกถ้าสภาพการผลิต ยังไม่ดีขึ้น

วันที่ 12 มกราคม 2559 บริษัทที่ปรึกษาในบราซิล Archer Consulting รายงานว่า เพียงวัน ที่ 31 ธันวาคม 2558 โรงงานน้ำตาลในบราซิลได้ทำการขายน้ำตาลไปแล้ว 66.6% ของน้ำตาลจำนวน 25.12 ล้านตัน ที่คาดว่า จะส่งออกในปี2559/2560 (เมษายน-มีนาคม) ในราคาเฉลี่ย 13.71 เซนต์/ปอนด์ อัตราแลกเปลี่ยน 3.78 เรียล/เหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีการผลิตก่อน ซึ่งขายไปเพียง 24.4% ของจำนวนที่คาดว่าจะส่งออก โดย Archer กล่าวว่า การอ่อนค่าลงของเงินเรียลเมื่อเทียบกับ เงินเหรียญสหรัฐฯ เป็นแรงจูงใจให้ โรงงานน้ำตาลขายน้ำตาลและขายเงินเรียลของบราซิลเป็นการล่วงหน้า

วันที่ 12 มกราคม 2559 Datagro รายงานว่า ในปี2557/2558 (เมษายน-มีนาคม) บราซิลส่งออก น้ำตาลจำนวน 24 ล้านตัน ต่ำสุดในรอบ 5 ปี และต่ำกว่า 600,000 ตัน ที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) คาดการณ์ในเดือนพฤษภาคม 2558 เนื่องจากผลผลิตน้ำตาลทางภาคกลาง-ใต้ และภาคเหนือ- ตะวันออกเฉียงเหนือลดลง โดยส่งออกไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศนำเข้ารายใหญ่สุดของโลกจำนวน 4.82 ล้านตัน รวมมูลค่ำการส่งออกน้ำตาลของบราซิล 7.64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 9.45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2556/2557 และตามรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2558คาดว่า ในปี2558/2559 บราซิลจะส่งออกน้ำตาลลดลง 200,000 ตัน เหลือ 23.8 ล้านตัน